อนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชา
|
อยู่ต้นถนนขุนลุมประพาส
ประวัติของพระยาสิงหนาราช
เดิมชื่อ ชานกะเล
เป็นชาวไทยใหญ่
ได้รวบรวมผู้คนตั้งหมู่บ้านชื่อว่า
"บ้านขุนยวม"
ต่อมาได้ยกขึ้นเป็นเมือง
จวบจนปี พ.ศ. 2417
จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองแม่ฮ่องสอน
และพระเจ้าอินทวิชยานนท์เจ้าครองนครเชียงใหม่
ได้ยกบรรดาศักดิ์ชานกะเล
เป็นพระยาสิงหนาทราชา
และแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก
……………………………………………………………
|
วัดพระนอน
|
อยู่เชิงดอยกองมู
เป็นที่ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่ สร้างด้วยศิลปะไทยใหญ่
พ.ศ. 2418
และเป็นพระนอนองค์ขนาดยาว
12 ม.
ซึ่งมีพุทธลักษณะงดงามมาก
ตามประวัติเล่าว่าพระนางเมียะภริยาของพระยาสิงหนาทราชาเป็นผู้สร้าง
ภายในบริเวณมีรูปปั้นสิงโตขนาดใหญ่
2
ตัวสร้างโดยพระยาสิงหนาทราชา
และพระนางเมียะ
อยู่เคียงข้างระหว่างทางที่จะขึ้นไปนมัสการพระธาตุกองมู
เป็นสิงโตที่มีลักษณะงดงามและสมบูรณ์มาก
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีการสอนวิปัสสนาอีกด้วย
……………………………………………………………
|
ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ
ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ตามเส้นทางหมายเลข
108 (แม่ฮ่องสอน – ขุนยวม) ก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร
มีทางแยกซ้ายตามทางหลวงสาย 1263 เข้าสู่ทุ่งบัวตองอีก 26
กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางมีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้างประมาณ 1
พันไร่ อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการพัฒนาป่าไม้ที่สูง
หน่วยที่ 5 กองอนุรักษ์ต้นน้ำ ดอกบัวตองที่นี่เมื่อบานพร้อมๆ
กันในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม
จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา มีความสวยงามมาก
|
วัดพระธาตุดอยกองมู
ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
เดินทางโดยแยกจากทางหลวงสาย
108 ตรงบริเวณ
อนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชาขึ้นไปทางซ้ายมือ
เป็นทางราดยางขึ้นภูเขาไปอีกประมาณ
1.5 กม.
มีชื่อเรียกแต่เดิมว่า
วัดปลายดอน
เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญที่สุด
ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม2
องค์
พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย"จองต่องสู่"
เมื่อ พ.ศ. 2403
เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ
ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า
ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ
พ.ศ. 2417โดย "พญาสิงหนาทราชา"
เจ้าผู้ครองแม่ฮ่องสอนคนแรก
จากวัดพระธาตุดอยกองมูนี้
สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจนและสวยงามมาก
ปัจจุบันมีถนนลาดยางขึ้นสู่พระธาตุดอยกองมู
เป็นระยะทางราว 5 กม.
วัดนี้มีงานเทศกาลประจำปีหลายงาน
เช่น ในวันปีใหม่
วันสงกรานต์
โดยเฉพาะในวันออกพรรษาจะมีการตักบาตรดาวดึงส์
หรือตักบาตรเทโวด้วย
……………………………………………………………
วัดก้ำก่อ
(ภาษาไต
แปลว่า ดอกบุนนาค)
ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดพระนอนเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2433
มีลักษณะสถาปัตยกรรมงดงามไม่แพ้วัดอื่น
โดยเฉพาะลักษณะพิเศษที่มีหลังคาคลุมทางเดินตั้งแต่ซุ้มทางเข้าไปสู่ศาลา
นอกจากนี้ยังมีตำราภาษาไทยใหญ่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยใหญ่กับเจ้าอโนรธามังช่อ
ปัจจุบันได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดย
พระมหาบุญรักษ์ สุปัญโญ
ท่านเจ้าอาวาสวัดนี้
……………………………………………………………
วัดจองกลาง
ตั้งอยู่เคียงข้าง
กับวัดจองคำ ภายในวิหาร
มีแท่นบูชาตั้งพระพุทธสิหิงค์จำลอง
มีสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ
ตุ๊กตาแกะสลักด้วยไม้เป็นรูปคน
และสัตว์เกี่ยวกับพระเวสสันดรชาดก
และภาพประวัติเจ้าชายสิทธัตถะ
ตลอดจนภาพแสดงให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้นหลายภาพ
มีคำบรรยายเป็นภาษาพม่า
และมีบันทึกบอกว่าเป็นฝีมือของช่างไทยใหญ่จากมัณฑเลย์
……………………………………………………………
บ้านน้ำเพัยงดิน
หมูบ้านกะเหรี่ยงคอยาว
อยู่ในเขตต.ผาบ่อง
เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือตามลำน้ำปายผ่านบ้านห้วยเดื่อ
ไปจนถึงบ้านเพียงดินโดยเรือหางยาว
ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
ค่าเช่าเรือพร้อมคนขับ
500 บาท
รายได้ส่วนหนึ่งนำไปเป็นค่าเลี้ยงดูชาวกระเหรี่ยง
ตลอดเส้นทางที่ล่องเรือไปตามลำน้ำจะผ่านระลอกน้ำที่ลดระดับลดหลั่นกันไปคล้ายธารน้ำตก
นับเป็นทัศนียภาพที่งดงามแปลกตา
จากบ้านน้ำเพียงดินนี้ใช้เวลาล่องเรือไม่นานก็เข้าเขตสหภาพพม่า
และถึงบริเวณที่เรียกกันว่า
"ผาห่มน้ำ"
ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันเสมอ
จากบ้านน้ำเพียงดินนั่งเรือไปอีกประมาณ
5 กม.
ถึงสถานีตำรวจน้ำเพียงดิน
(สุดชายแดนไทย-พม่า)
การเดินทาง
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
ใช้เส้นทางหลวง 108
เลี้ยวขวาที่โชวรูมอีซูซุ
ไปท่าเดื่อ ตามทางหลวง
1250
…………………………………………………………….
วัดจองคำ
อยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองจองคำ
เป็นวัดเก่าแก่
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2370
โดยช่างฝีมือชาวไทยใหญ่
มีศิลปะแบบต่างๆ
ที่แปลกและงดงาม
หลังคาวัดเป็นรูปปราสาท
เพราะมีคติว่าปราสาทเป็นของสูง
ผู้ที่ประทับอยู่ในปราสาทควรจะเป็นพระมหากษัตริย์
หรือตัวแทนพระศาสนา
วัดจึงเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตมีขนาดหน้าตักกว้าง
4.85 ม. สร้างเมื่อ พ.ศ. 2469
โดยช่างฝีมือชาวพม่า
และมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ซึ่งจำลองมาจากพระศรีศากยมุนีที่วิหารวัดสุทัศน์
ประดิษฐานไว้เป็นพระประธานของวัด
เหตุที่เรียกชื่อวัดจองคำ
เนื่องจากเสาวัดประดับด้วยทองคำเปลว
……………………………………………………………
บ่อน้ำร้อนผาบ่องบ้านน้ำเพียงดิน
อยู่หมู่ที่ 1
ต.ผาบ่อง (เส้นทางหลวงหมายเลข 108 บริเวณหลักกม.ที่ 256)
อยู่ห่างจากตัวเมือง 11 กม. มีบริเวณ พื้นที่ 8
ไร่ได้จัดสถานที่ไว้อย่างสวยงาม และมีห้องอาบน้ำไว้บริการ
และในบริเวณใกล้เคียงก็มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
…………………………………………………………….
พระตำหนักปางตอง |
อยู่ในเขต ต.หมอกจำแป่
สามารถเดินทางไปโดยใช้เส้นทางเดียวกับทางเข้าวนอุทยานผาเสื่อ
และต้องเดินทางต่อไปอีก 5 กม.
ตัวเรือนประทับแรมตั้งอยู่บนยอดเขาสูงที่บ้านปางตองในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงปางตอง
มีทิวทัศน์สองข้างสวยงาม
ทางรถยนต์เข้าถึงและสามารถเดินทางไปสู่หมู่บ้านแม้วนาป่าแปก
ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าแม้วที่สุขสงบและน่ารักมาก
เลยต่อจากหมู่บ้านแม้วนี้ก็จะสามารถไปถึงหมู่บ้านแม่ออ
ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนไทย-พม่า และมีกองกำลังพล 93
ตั้งอยู่เป็นบริเวณที่สูง อากาศเย็น และมีทิวทัศน์ที่น่าชมยิ่ง
|
……………………………………………………………
วนอุทยานถ้ำปลา |
อยู่ที่บ้านห้วยผา
ต.ห้วยผา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กม. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1095
(แม่ฮ่องสอน-ปาย) เส้นทางราดยางเรียบร้อยสามารถเดินทางไปชมได้ทุกฤดูกาล
บริเวณโดยรอบเป็นลำธารและป่าเขา
ถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 2
ม. ลึก 1.50 ม. ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา
และมีปลาตัวโตๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกชื่อ
ว่าปลามุงหรือปลาคังหรือปลาพลวงเป็นปลามีเกล็ดขนาดใหญ่ในวงศ์เดียวกับปลาคาร์พ
และถึงแม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอันตราย
เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า
หากใครนำไปรับประทานแล้วจะต้องมีอันเป็นไป
ปัจจุบันบริเวณวนอุทยานถ้าปลาได้รับการปรับปรุงเป็นแหล่งพักผ่อน
……………………………………………………………. |
|
วนอุทยานน้ำตกผาเสื่อ
อยู่ในเขตต.หมอกจำแป่
ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ตามเส้นทางสู่ อ.ปาย (เส้นทาง 1095) เป็นระยะทาง 17
กม. แยกซ้ายบริเวณบ้านรักไทยเป็นทางราดยางเข้าไปอีก 12 กม.
และเข้าทางลูกรังไปอีก 8 กม.
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเข้าหมู่บ้านหมอกจำแป่(เป็นเส้นทางเก่า)
ทางเข้ายังไม่สะดวก เป็นถนนลูกรังตลอดทั้งเส้น
เส้นทางนี้แยกมาจากทางหลวงหมายเลข 1095
แต่จะถึงก่อนเส้นทางแรกโดยห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 14 กม.
น้ำตกแห่งนี้ไหลลงมาจากน้ำตกแม่สะงาในพม่า มี 6 ชั้น
ชั้นบนสุดอยู่ในป่าลึกเข้าไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.
คือน้ำตกแม่สะงากลางถัดออกมาเป็นชั้นผายาว ผาลาด ผาเสื่อ ผาตั้ง และผาฮ้อม
ชั้นที่คนนิยมเที่ยวมากที่สุดคือผาเสื่อ
ซึ่งมีน้ำตกลงมากระทบแผ่นหินกระเด็นเป็นฝอย
และสองข้างน้ำตกมีแผ่นหินลักษณะคล้ายเสื่อปูลาดอยู่จำนวนมาก น้ำตกมีขนาดใหญ่
และน้ำมากตลอดปี น้ำมากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
…………………………………………………………….
บ้านยอดดอย |
(หมู่บ้านแม้วไมโครเวฟ) เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง
ที่อาศัยอยู่บนดอยสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 ม.
ความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย
และการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างเคร่งครัดของพวกเขา
เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางไปสัมผัส
โดยเดินทางจากแม่ฮ่องสอนไปหมู่บ้านป่าลาน 32 กม.
(เส้นทางแม่ฮ่องสอน-ขุนยวม) และเลี้ยวซ้ายขึ้นหมู่บ้าน
ซึ่งเป็นทางสูงชันอีกราว 8 กม.
…………………………………………………………….
|
น้ำตกซู่ซ่า |
อยู่ในเขตบ้านแม่สุยะ ต.ห้วยผา
เป็นน้ำตกที่ทะลุจากซอกเขาเป็นทางยาวประมาณ 100 ม. ขนานไปกับลำน้ำ
ต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 3 ชั่วโมง
…………………………………………………………….
|
เขื่อนผลิตไฟฟ้า
พลังน้ำผาบ่อง |
อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
ไปทางทิศใต้ประมาณ ๑๒ กม. เป็นเขื่อนกั้นลำน้ำ แม่ระมาด
และผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
บริเวณตัวเขื่อนมีศาลาพักร้อนเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ
…………………………………………………………….
|
เรือนประทับแรมโป่งแดง |
อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ ๔ กม.
ตั้งอยู่ภายในศูนย์โครงการ พัฒนาตามพระราชดำริท่าโป่งแดง
ซึ่งทำการทดลองเพาะปลูกพืชผลไม้ ต่างๆ และเลี้ยงหม่อนไหม
แยกไปทางซ้ายมือประมาณ 2 กม.
มีเรือนประทับแรมตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ
ด้านหน้ามีแม่น้ำปายไหลผ่าน รอบบริเวณปลูกไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม
บรรยากาศเหมะแก่การพักผ่อน
…………………………………………………………….
|
วัดหัวเวียงหรือวัดกลางเมือง
|
อยู่ที่ถนนสิหนาทบำรุง
ต.จองคำ (อยู่ติดกับตลาดเช้าบริเวณสี่แยกไฟแดง)
เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2406
เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าพาราละแข่ง
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องประจำเมืองที่งดงามมาก
มีประวัติว่าหล่อจำลองจาก "พระมหามุนี" ซึ่งเป็นเจ้าพาราละแข่งองค์จริง
ณ เมือง มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า โดยลุงจองโพหย่า เดินทางไปนิมนต์มา
พระเจ้าพาราละแข่งองค์นี้สร้างเป็นท่อน ๆ ทั้งหมด 9 ท่อน
ล่องมาตามแม่น้ำปาย
แล้วนำมาประกอบที่วัดพระนอนและนำมาประดิษฐานที่วัดหัวเวียงหรือ
วัดกลางเวียง หรือวัดกลางเมือง ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็น
พระพุทธรคู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง
|
…………………………………………………………… |
ภูโคลนคันทรี่คลับ
เป็นแหล่งค้นพบโคลนจากน้ำพุร้อน
นับเป็นหนึ่งในสามแหล่งของโลกที่มีการค้นพบโคลนที่นำมาใช้ในการเสริมสร้างสุขภาพความงามให้กับผิวพรรณของเรา
นอกเหนือจากโคลนใต้ทะเล dead sea และโคลนภูเขาไฟ
เนื่องจากมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น แคลเซียม
ที่ช่วยปรับความสมดุลย์ของผิว โบรไมด์มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค
แมกนีเซียมช่วยเสริมสร้างและช่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เป็นต้น
เป็นแหล่งที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ภูโคลน
ให้บริการในรูปแบบของแนเชอรัลสปา และมีสระน้ำแร่ธรรมชาติ
การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 สายแม่ฮ่องสอน-ปาย ระยะทางประมาณ 6
กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเข้าหมู่บ้านกุงไม้สัก-บ้านห้วยนาขานอีก 4
กิโลเมตรจะพบภูโคลนอยู่ทางขวามือ
|
……………………………………………………………
|
ตลาดเช้า (กาดเช้า)
สีสรรของพืชผักผลไม้ สีสรรของชีวิตผู้คนในตลาดเช้า
เชิญท่านเยี่ยมชมตลาดของเมือง ตั้งอยู่บนถนนพานิชวัฒนา ใกล้วัดหัวเวียง
ตอนเช้าตรู่ท่านจะได้สัมผัสกับชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น
มีสินค้าของชาวพื้นเมืองขาย รวมทั้งอาหารแบบไต
ของฝากจากเมืองแม่ฮ่องสอนหรือขนมของคนไตก็มีขายในตลาดเช้าแห่งนี้
ตลาดแห่งนี้เดิมชื่อว่า ตลาดสายหยุด เพราะตลาดจะวายเมื่อเวลาสาย หรือประมาณ
09.00 น. |
|
……………………………………………………………
|